บันทึกการเรียน
วันพุธที่ 7 มีนาคม 2561
เนื้อหาที่เรียน
นำเสนอคำคมสำหรับผู้บริหาร
นำเสนอวิจัย
กลุ่มที่1 งานวิจัย
เรื่องรูปแบบการพัฒนาระบบการบริหารคุณภาพโรงเรียนมัธยมศึกษา
สู่ความเป็นเลิศระดับสากล
ผู้วิจัย : อุดม ชูลีวรรณ
ปีการศึกษา : 2559
บทนำ
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่ 1.
ระบบการศึกษาในฐานะที่เป็นเครื่องมือในการพัฒนาคนของชาติให้มีคุณภาพตามที่สังคมปรารถนาโดยจะต้อง
เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม คุณลักษณะของบุคคลให้อดคล้องกับ ทิศทางการพัฒนาประเทศ
เพื่อเป็น พลังในการขับ เคลื่อนพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับอารยประเทศได้
ประเด็นที่ 2.
การศึกษาทุกระบบมุ่งเน้นที่จะให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
ประเด็นที่ 3. เพื่อจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ
ประเทศไทยได้มีการปฏิรูปการศึกษามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ.2542
ทั้งปรับโครงสร้างการบริหาร การพัฒนายกระดับคุณภาพครู หลักสูตร การเรียนการสอน
ประเด็นที่ 4. การกำหนดเป้าหมายยุทธศาสตร์
ของคณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษา
ประเด็นที่ 5. การส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อพัฒนาสู่คุณภาพระดับสากล
โดยเริ่มต้นจากโครงการ โรงเรียนมาตรฐานสากล
ประเด็นที่ 6. การบริหารจัดการโรงเรียนด้วยระบบคุณภาพที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบที่จะพัฒนาองค์กรให้
มีผลดำเนินการที่เป็นเลิศ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.เพื่อศึกษาองค์ประกอบของการบริหารคุณภาพโรงเรียนมัธยมสู่ความเป็นเลิศระดับสากล
2.เพื่อนำเสนอรูปแบบการพัฒนาระบบการบริหารคุณภาพโรงเรียนมัธยมสู่ความเป็นเลิศระดับสากล
สะท้อนองค์ความรู้ที่ได้จากวิจัย
ความรู้ที่ได้จากวิจัยครั้งนี้คือ การบริหารสถานศึกษาในโรงต่างๆ
จะเห็นได้ว่าการบริหารและการจัดการเป็นกลไกในการขับเคลื่อนให้เกิดการดำเนินงานบรรลุเป้าหมายคือด้านผลลัพธ์แต่จะบริหารและจัดการอย่างไรจึงจะเกิดประสิทธิภาพนั้นผู้ริหารสำคัญที่สุดเพราะผู้บริหารเป็นผู้กำหนดทิศทางการทำงาน
ผู้บริหารสถานศึกษาที่มีประสิทธิภาพทั้งหลายล้วนเป็นผู้นำทางวิชาการ
มีความคิดริเริ่ม มีวิสัยทัศน์ มีความรอบรู้
มีความสามารถในการจัดโครงสร้างและจัดบุคลากรให้เหมาะกับศักยภาพ
ส่งเสริมให้มีการจัดหลักสูตรที่เหมาะสมกับผู้เรียนและท้องถิ่น
ส่งเสริมพัฒนานวัตกรรม พัฒนาบุคลากร พัฒนา
ผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์รอบด้านทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
สิ่งสำคัญอีก
กลุ่มที่ 2 งานวิจัย
เรื่อง การบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารตามทัศนะของครูในโรงเรียนเครือข่ายที่49 สำนักงานเขตคลองสามวา
สังกัดกรุงเทพมหานคร
ผู้วิจัย :
นางสาวจิรัญญา ขัดธิพงษ์
ปีการศึกษา : 2558
บทนำ
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่ 1 ศึกษาการบริหารวิชาการ
ประเด็นที่ 2 ศึกษาบริหารงบประมาณ
ประเด็นที่ 3 ศึกษาการบริหารงานบุคคลการบริหารทั่วไป
ประเด็นที่ 4 ศึกษาการบริหารทั่วไป
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.เพื่อศึกษาการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารตามทัศนะของครู
ในโรงเรียนเครือข่ายที่ 49
สำนักงานเขตคลองสามวา สังกัดกรุงเทพมหานครในขอบข่ายภารกิจ 4 ด้าน ได้แก่ การบริหารวิชาการการ บริหารงบประมาณ
การบริหารงานบุคคลและการบริหารทั่วไป
2.เพื่อเปรียบเทียบการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารตามทัศนะของครูในโรงเรียนเครือข่ายที่49 สำนักงานเขตคลองสามวา สังกัดกรุงเทพมหานครจำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ในการสอน
ข้อเสนอแนะ
1.ควรมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับขอบข่ายการบริหารสถานศึกษาทั้ง
4 ด้าน โดยการศึกษาอย่างเชิงลึกในแต่ละด้าน
2.ควรมีการศึกษาเกี่ยวกับวิจัยเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาที่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลของโรงเรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา
3.ขอบเขตประสิทธิผลของโรงเรียน
ที่เกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
สะท้อนองค์ความรู้ที่ได้จากวิจัย
จากการศึกษาวิจัยเรื่องการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารตามทัศนะของครูในโรงเรียน
เครือข่ายที่ 49 สำนักงานเขตคลองสามวา
สังกัดกรุงเทพมหานคร ได้ความรู้จากการศึกษาวิจัย ดังนี้ ได้เห็นแนวคิด ทฤษฎี
หลักการต่างๆ ของการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา การบริหารงบประมาณ
การบริหารงานบุคคล และการบริหารทั่วไป
สำหรับการบริหารงานวิชาการมีการจัดตั้งและพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ให้ครูและนักเรียนใช้ทั้งในและนอกโรงเรียน
ทางด้านการบริหารงบประมาณ
มีการดำเนินการจัดทำบัญชีการเงินถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ
มีการจัดทำทะเบียนคุมทรัพย์สินและบัญชีวัสดุ
ควบคุมบำรุงรักษาพัสดุและมีการตรวจสอบพัสดุประจำปี
และด้านการบริหารงานบุคคลมีการส่งเสริมและให้การสนับสนุนการประเมินวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีการส่งเสริมสร้างขวัญ
และกำลังใจโดยการยกย่องเชิดชูเกียรติผู้มีผลงานดีและมีคุณงามความดีและ
เสริมสร้างและพัฒนาวินัย
คุณธรรมและจริยธรรมสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
กลุ่มที่ 3 งานวิจัย เรื่องรูปแบบการบริหารโรงเรียนสาธิตปฐมวัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏบัณฑิตวิทยา
มหาวิทยาลัยศิลปากร
ปีการศึกษา : 2552
บทนำ
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่ 1 การจัดการศึกษาภาคบังคับเป็นการจัดการศึกษาที่เริ่มตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่
1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
ถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่ไม่ได้คลอบคลุมการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย
เป็นเพียงการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่นักการศึกษาและนักจิตวิทยามีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันว่าเด็กวัยแรกเกิดจนถึง
6 ปีเป็นวัยที่สำคัญต่อการวางรากฐานบุคลิกภาพและการพัฒนาศักยภาพทางสมอง
การจัดการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัยจึงมีความสำคัญต่อการส่งเสริมพัฒนาเด็กในทุกๆด้าน
ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ -จิตใจ สังคมและสติปัญญา
เป็นการส่งเสริมความพร้อมในการที่จะเรียนรู้ในระดับต่อไป ซึ่ง
สถานศึกษาแต่ละแห่งมีรูปแบบการบริหารและการดำเนินงานที่มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันแต่มีจุดร่วมเดียวกันเพื่อพัฒนาศักยภาพเด็กให้มีคุณภาพเพื่อส่งผลต่อการพัฒนาสังคมและประเทศด้วย
ประเด็นที่ 2 การจัดการศึกษาในระดับปฐมวัยนับว่ามีความสำคัญเป็นอันดับแรก
เนื่องจากเป็นการวางรากฐานคุณภาพชีวิต การศึกษาให้แก่เยาวชนซึ่งโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยราชภัฏมีบทบาทในการดำเนินงานด้านการศึกษาปฐมวัย
การดำเนินงานและการบริหารโรงเรียนสาธิตปฐมวัยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
กล่าวคือต้องมีการบริหารงานที่มีรูปแบบหรือลักษณะชัดเจนถูกต้องเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนสาธิตปฐมวัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏ
ประเด็นที่ 3 สาธิตปฐมวัยเป็นโรงเรียนที่จัดการศึกษาในระดับปฐมวัยคือการจัดการศึกษาสำหรับเด็กนักเรียนที่มีอายุระหว่าง
2 ปีครึ่ง - 5 ปี 11 เดือน โดยมีปรัชญาในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยเต็มศักยภาพสอดคล้องกับพัฒนาการทางด้านร่างกาย
ด้านอารมณ์จิตใจ สังคมและสติปัญญา
และเป็นไปโดยธรรมชาติภายใต้สิ่งแวดล้อมที่เป็นอิสระ
ภารกิจของการดำเนินงานโรงเรียนสาธิตปฐมวัย
1.
พัฒนาเด็กปฐมวัยให้เต็มตามศักยภาพ ให้เป็นไปโดยธรรมชาติ
2.
เป็นแหล่งฝึกประสบการณ์วิชาชีพให้แก่นักศึกษาโปรแกรมวิชาการศึกษาปฐมวัย
3.
เป็นแหล่งการบริหารวิชาการ
ค้นคว้าวิจัยและพัฒนาข้อมูลวิชาการทางด้านการศึกษาปฐมวัย
โรงเรียนสาธิตมีภารกิจที่รับผิดชอบเช่นเดียวกันกับโรงเรียนอื่นๆ ได้แก่ งานวิชาการ
งานบุคลากร งานกิจการนักเรียน
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
จากสภาพความเป็นมาและปัญหาของการวิจัยดังที่ได้กล่าวข้างต้นผู้วิจัยกำหนดจุดประสงค์ของการวิจัยและกัน
1.
เพื่อทราบองค์ประกอบการบริหารโรงเรียนสาธิตปฐมวัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏ
2. เพื่อนำเสนอรูปแบบการบริหารโรงเรียนสาธิตปฐมวัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏ
สะท้อนองค์ความรู้ที่ได้จากวิจัย
การบริหารและหลักการบริหารการจัดการมีความสำคัญในการวางระบบการบริหารโรงเรียน
โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานเป็นรูปแบบ
และแนวคิดในการบริหารที่จะต้องกระจายอำนาจการบริหารทำให้สถานศึกษามีอำนาจและความรับผิดชอบในการบริหารมีความคล่องตัวและมีอิสระมากขึ้นในการตัดสินใจ
การสร้างประสิทธิภาพของโรงเรียนควรเน้นการบริหารการจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานอย่างชัดเจน
และเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้
กลุ่มที่ 4 งานวิจัยเรื่อง การบริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียนในอำเภอคลองหลวงสังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต1
ผู้วิจัย : นางสาวยุกตะนันท์ หวานฉ่ำ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อศึกษา
ระดับการบริหารสถานศึกษาของโรงเรียนในอำเภอคลองหลวงสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต1
2. เพื่อศึกษาระดับประสิทธิผลของโรงเรียนในอำเภอคลองหลวงสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานีเขต1
3. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียนในอำเภอคลองหลวงสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต1
กลุ่มที่ 5 งานวิจัยเรื่อง : ทักษะการบริหารในศตวรรษที่ 21
ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1
ผู้วิจัย : ศศิตา เพลินจิต ปีการศึกษา : 2558
บทนำ
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่1 : ปัญหาสำหรับผู้บริหารที่ยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับยุค
ของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ประเด็นที่2 : ผู้บริหารขาดทักษะที่จาเป็นสาหรับการบริหารในองค์กรและ
หน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้บริหารสถานศึกษา
ประเด็นที่3 : ผู้บริหารสถานศึกษาจึงเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่
จะต้องมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่21เพื่อหน่วยงานให้มีมาตรฐานสูงขึ้น
ประเด็นที่4 : การพัฒนาทักษะของผู้บริหารในศตวรรษที่
21 เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะของผู้บริหาร
ประเด็นที่5 : ทักษะการบริหารในศตวรรษที่
21 ของผู้บริหารสถานศึกษา
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.เพื่อศึกษาทักษะการบริหารในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1
2.เพื่อเปรียบเทียบทักษะการบริหารในศตวรรษที่21 ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 จำแนกตามขนาดของสถานศึกษา
สะท้อนองค์ความรู้ที่ได้จากวิจัย
1.ได้รับความรู้เรื่องทักษะการบริหารในศตวรรษที่ 21
และได้รับความรู้ใหม่เกี่ยวกับทฤษฎีต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการบริหารการศึกษาในศตวรรษที่21เพิ่มมากขึ้น
2.ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ศึกษา ค้นคว้า
และแก้ปัญหาจากการทำงานเพื่อแสดงศักยภาพที่มีอยู่ให้เห็นว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการทำวิจัย
3.ได้ฝึกทักษะกระบวนการทำงาน การแก้ไขปัญหา
มีความรับผิดชอบและได้ฝึกการวางแผนการทำงานเพื่อนำความรู้ที่ได้จากการวิจัยไปปรับใช้ในการศึกษาต่อไป
กลุ่มที่ 6 งานวิจัย เรื่อง
การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหาร สถานศึกษา
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดขอนแก่น
ผู้วิจัย นัยนา เจริญผล
ปีการศึกษา
2552
บทนำ
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่ 1 เป็นแนวทางสำคัญในการจัดระเบียบให้สังคมทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน
และภาคประชาชน ซึ่งครอบคลุมไปถึงฝ่ายวิชาการ ฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่ายราชการ
และฝ่ายธุรกิจ
ประเด็นที่ 2 ก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยังยืนและเป็นส่วนเสริมความเข้มแข็งหรือสร้างภูมิคุ้มกัน
ประเด็นที่ 3 การพัฒนาคนไทยให้มีคุณภาพต้องอาศัยการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีคุณภาพได้รับการสนับสนุนส่งเสริมด้วยระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อศึกษา
การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา จังหวัดขอนแก่น
2. เพื่อเปรียบเทียบการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา
จังหวัดขอนแก่น จำแนกตาม ประเภทการจัดการศึกษา และขนาดของสถานศึกษา
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิบัติ
ครูแต่ละคนควรมีความจริงใจให้กับเพื่อนร่วมงานควรมีการประสานงานที่ดี
และควรมีขวัญกำลังใจในการทำงาน
ผู้บริหารจึงควรมีการสร้างขวัญกำลังใจให้กับครูผู้สอน เช่น
มีการมอบรางวัลสำหรับครูที่ปฏิบัติดีตามหลักคุณธรรม
จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นระหว่างบุคลากรของโรงเรียน
และมีการออกกฎระเบียบลงโทษครูที่ขาดความรับผิดชอบต่องานและต่อครูด้วยกัน
สำหรับครูผู้สอนก็ควรมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนและมีส่วนร่วม
แสดงความคิดเห็นต่อส่วนรวมบ้างในบางโอกาส
2. ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยครั้งต่อไป
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาทางเดียวกล่าวคือเป็นงานวิจัยที่ศึกษาเฉพาะผู้
ปฏิบัติงานได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนเท่านั้น
ดังนั้นในการวิจัยครั้งต่อไปจึงควรศึกษาถึงความคิดเห็นของผู้ได้รับบริการ
หรือผู้ใช้บริการอื่น ๆ ของโรงเรียนด้วย ซึ่งได้แก่นักเรียน ผู้ปกครองของนักเรียน
สมาคมนักเรียนเก่า หรือชุมชนบริเวณโรงเรียน เพื่อจะได้นำความคิดเห็นดังกล่าวมาพิจารณาร่วมกับความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนเป็นประโยชน์ในการพัฒนาการบริหารงานของโรงเรียนตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป
สะท้อนองค์ความรู้ที่ได้จากวิจัย
จากผลการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาพบว่า
สถานศึกษาในแต่ละพื้นที่ต้องการผู้บริหารที่มีคุณภาพ
การเป็นผู้บริหารที่ดีนั้นควรมีหลักในการยึดถือปฏิบัติ ได้แก่ หลักด้านนิติธรรม
ด้านคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ
หลักแห่งความคุ้มค่า ซึ่งคุณธรรมเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นผู้บริหาร
วิธีเทคนิคการบริหารวิธีนี้จะช่วยให้การบริหารเกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด
องค์กรมีทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามมาด้วย
ประเมิน
อาจารย์ มีข้อเสนอแนะในการนำเสนอวิจัยครั้งนี้กับทุกกลุ่ม
เพื่อน ตั้งใจและเตรียมงานกลุ่มของตัวเองได้ค่อนข้างดี
ตัวเอง ตังใจฟังเพื่อนกลุ่มอื่น และตั้งใจในการนำเสนอกลุ่มตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น